ترجمة سورة السجدة

الترجمة التايلاندية

ترجمة معاني سورة السجدة باللغة التايلاندية من كتاب الترجمة التايلاندية.
من تأليف: مجموعة من جمعية خريجي الجامعات والمعاهد بتايلاند .

[32.1] อะลิฟ ลาม มีม
[32.2] การประทานลงมาของคัมภีร์นี้ไม่มีข้อสงสัยใด ๆ ในนั้น จากพระเจ้าแห่งสากลโลก
[32.3] หรือพวกเขากล่าวว่า “เขา (มุฮัมมัด) ได้ปั้นแต่งคัมภีร์นี้ขึ้นมา” แต่ว่าคัมภีร์นี้ คือ สัจธรรมจากพระเจ้าของเจ้า เพื่อเจ้าจักได้ตักเตือนกลุ่มชนหนึ่งที่มิได้มีผู้ตักเตือนคนใดมายังพวกเขาก่อนหน้าเจ้า หวังว่าพวกเขาจะได้อยู่ในแนวทางที่ถูกต้อง
[32.4] อัลลอฮฺคือผู้ทรงสร้างชั้นฟ้าทั้งหลาย และแผ่นดิน และสิ่งที่อยู่ในระหว่างทั้งสองในเวลา 6 วัน แล้วพระองค์ทรงสถิตอยู่บนบัลลังก์ สำหรับพวกเจ้านั้นไม่มีผู้คุ้มครองและผู้ช่วยเหลืออื่นจากพระองค์ แล้วพวกเจ้ามิได้ใคร่ครวญบ้างดอกหรือ ?
[32.5] พระองค์ทรงบริหารกิจการจากชั้นฟ้าสู่แผ่นดิน แล้วมันจะขึ้นไปสู่พระองค์ในวันหนึ่งซึ่งกำหนดของมันเท่ากับหนึ่งพันปีตามที่พวกเจ้านับ
[32.6] นั่นคือพระผู้ทรงรอบรู้สิ่งเร้นลับ และเปิดเผย เป็นผู้ทรงอำนาจ ผู้ทรงเมตตาเสมอ
[32.7] ผู้ทรงทำให้ทุกสิ่งที่พระองค์ทรงสร้างมันให้ดีงาม และพระองค์ทรงเริ่มการสร้างมนุษย์จากดิน
[32.8] แล้วทรงให้การสืบตระกูล ของมนุษย์มาจากน้ำ (อสุจิ) อันไร้ค่า
[32.9] แล้วทรงทำให้เขามีสัดส่วนที่สมบูรณ์ และทรงเป่ารูหฺ (วิญญาณ) ของพระองค์เข้าไปในเขาและทรงให้พวกเจ้าได้ยินและได้เห็นและให้มีจิตใจ (สติปัญญา) ส่วนน้อยเท่านั้นที่พวกเจ้าขอบคุณ
[32.10] และพวกเขากล่าวกันว่า เมื่อเราได้สลายตัวลงสู่ใต้ผืนแผ่นดินไปแล้ว เราจะเกิดขึ้นมาใหม่กระนั้นหรือ แต่พวกเขาปฏิเสธต่อการพบพระเจ้าของพวกเขา
[32.11] จงกล่าวเถิดมุฮัมมัด มะลักผู้ปลิดชีวิต ผู้ได้รับมอบหมายเกี่ยวกับพวกท่าน จะปลิดชีวิตของพวกท่าน แล้วพวกท่านจะถูกนำกลับไปยังพระเจ้าของพวกท่าน
[32.12] และถ้าเจ้าได้เห็น เมื่อผู้กระทำผิดทั้งหลายก้มศีรษะของพวกเขาลง ณ ที่พระเจ้าของพวกเขา (พลางกล่าวว่า) ข้าแต่พระเจ้าของเรา เราได้เห็นแล้ว เราได้ยินแล้ว ขอได้ทรงโปรดส่งเรากลับไป (ยังโลกดุนยา) เพื่อเราจะได้กระทำความดี แท้จริงเราเป็นผู้มีความเชื่อมั่นแล้ว (ณบัดนี้)
[32.13] และถ้าเราประสงค์ แน่นอนเราจะทำให้ทุกชีวิตสู่แนวทางที่ถูกต้องของมัน แต่ว่าคำสัญญาของข้าจะต้องสมจริง แน่นอนข้าจะให้นรกเต็มไปด้วยญินและมนุษย์รวมทั้งหมด
[32.14] ดังนั้น พวกเจ้า (ชาวนรก) จงลิ้มรสเถิด เนื่องด้วยพวกเจ้าได้ลืมการชุมนุมกันในวันนี้ของพวกเจ้า แท้จริงเราก็ลืมพวกเจ้าด้วย และพวกเจ้าจงลิ้มรสการลงโทษอย่างตลอดกาลตามที่พวกเจ้าได้กระทำไว้เถิด
[32.15] แท้จริงบรรดาผู้ศรัทธาต่ออายาตทั้งหลายของเราเท่านั้น ที่เมื่อพวกเขาถูกเตือนให้รำลึกถึงอายาต พวกเขา (ก็จะ) ก้มลงสุญูด และสดุดีสรรเสริญแด่พระจ้าของพวกเขา โดยที่พวกเขาไม่หยิ่งผยอง
[32.16] สีข้างของพวกเขาเคลื่อนห่างจากที่นอน พลางวิงวอนต่อพระเจ้าของพวกเขาด้วยความกลัวและความหวัง และพวกเขาบริจาค สิ่งที่เราได้ให้เป็นเครื่องยังชีพแก่พวกเขา
[32.17] ดังนั้น จึงไม่มีชีวิตใดรู้สิ่งที่ถูกซ่อนไว้สำหรับพวกเขา ให้เป็นที่รื่นรมย์แก่สายตา เป็นการตอบแทนในสิ่งที่พวกเขาได้กระทำไว้
[32.18] ดังนั้น ผู้ศรัทธาจะเหมือนกับคนชั่วช้ากระนั้นหรือ? พวกเขาย่อมไม่เท่าเทียมกันแน่ ๆ
[32.19] ส่วนบรรดาผู้ศรัทธาและกระทำความดีทั้งหลายนั้น สำหรับพวกเขาคือสวนสวรรค์หลากหลาย เป็นที่พำนักเตรียมไว้ตามที่พวกเขาได้กระทำไว้
[32.20] และส่วนบรรดาผู้ชั่วช้านั้น ที่พำนักของพวกเขาคือไฟนรก คราใดที่พวกเขาต้องการจะออกไปจากมัน พวกเขาจะถูกบังคับให้เข้าไปในนั้นอีก และจะมีเสียงกล่าวแก่พวกเขาว่า “จงลิ้มรสการลงโทษของไฟนรกซึ่งพวกท่านเคยปฏิเสธ ไม่เชื่อมัน”
[32.21] และแน่นอน เราจะให้พวกเขาได้ลิ้มรสการลงโทษอันใกล้ (ในโลกนี้) ก่อนการลงโทษอันยิ่งใหญ่ (ในปรโลก) เพื่อว่าพวกเขาจะกลับมาสำนึกผิด
[32.22] และผู้ใดเล่าจะอธรรมยิ่งไปกว่าผู้ถูกเตือนให้รำลึกถึงอายาตทั้งหลายของพระเจ้าของเขา แล้วเขาก็ผินหลังให้กับอายาตเหล่านั้น แท้จริงเราเป็นผู้จองเวรบรรดาผู้กระทำผิด
[32.23] และโดยแน่นอน เราได้ให้คัมภีร์แก่มูซา ดังนั้น เจ้า (มุฮัมมัด) อย่าอยู่ในการสงสัยต่อการพบมัน และเราได้ทำให้มัน (คัมภีร์อัต-เตารอฮฺ) เป็นแนวทางที่ถูกต้องแก่วงศ์วานของอิสรออีล
[32.24] และเราได้จัดให้มีหัวหน้าจากพวกเขา เพื่อจะได้ชี้แนะแนวทางที่ถูกต้องตามคำบัญชาของเรา ในเมื่อพวกเขามีความอดทนและพวกเขาเชื่อมั่นต่ออายาตทั้งหลายของเรา
[32.25] แท้จริงพระเจ้าของเจ้า พระองค์จะทรงตัดสินระหว่างพวกเขาในวันกิยามะฮฺในสิ่งที่พวกเขาขัดแย้งกันในเรื่องนั้น
[32.26] ยังมิเป็นที่ประจักษ์ชัดแก่พวกเขาดอกหรือว่า กี่มากน้อยแล้วที่เราได้ทำลายประชาชาติก่อนหน้าของเขาไปหลายชั่วศตวรรษ โดยที่พวกเขา (กุฟฟารมักกะฮฺ) ได้ไปพบเห็นมาในที่พำนักอาศัยของพวกเขา แท้จริง ในการนี้ย่อมเป็นสัญญาณอย่างมากหลาย แล้วพวกเขายังไม่เชื่อฟัง (ใคร่ครวญ) อีกหรือ
[32.27] พวกเขาไม่เห็นดอกหรือว่า เราได้ให้น้ำไหลลงสู่แผ่นดินที่แห้งแล้ง แล้วด้วยมัน (น้ำ) เราได้ให้พืชผลงอกเงยออกมา เพื่อปศุสัตว์ของพวกเขาและตัวของพวกเขาเองได้กินจากมัน แล้วพวกเขายังไม่เห็นอีกหรือ
[32.28] และพวกเขากล่าวว่า เมื่อใดเล่าชัยชนะนี้ (จะเกิดขึ้นแก่พวกท่าน) หากพวกท่านเป็นผู้สัตย์จริง
[32.29] จงกล่าวเถิด(มุฮัมมัด) วันแห่งชัยชนะนั้น การศรัทธาของบรรดาผู้ปฏิเสธศรัทธาจะไม่อำนวยประโยชน์แก่พวกเขาเลย และพวกเขาก็จะไม่ถูกให้ยืดเวลาออกไป
[32.30] ดังนั้น จงผินหลังห่างออกจากพวกเขาเสียเถิด และจงคอยดู แท้จริงพวกเขาก็จะเป็นผู้คอยดู
سورة السجدة
معلومات السورة
الكتب
الفتاوى
الأقوال
التفسيرات

سورةُ (السَّجْدة) من السُّوَر المكية، وقد جاءت بإنذارِ الكافرين من النار، وتوبيخِهم على اتِّباع الآلهة الزائفة التي لا تغني من الحقِّ شيئًا، ودعَتْهم إلى التواضُعِ واتِّباع دِينِ الله الحقِّ؛ من خلال تَرْكِ التكبُّر، والسجودِ لله، مذكِّرةً لهم بأصلِ خِلْقتهم، وبقوَّةِ الله عز وجل وقُدْرته؛ فهو المستحِقُّ للعبادة، وقد كان صلى الله عليه وسلم يَقرؤُها في صلاةِ فَجْرِ يوم الجمعة.

ترتيبها المصحفي
32
نوعها
مكية
ألفاظها
374
ترتيب نزولها
75
العد المدني الأول
30
العد المدني الأخير
30
العد البصري
29
العد الكوفي
30
العد الشامي
30

* قوله تعالى: {تَتَجَافَىٰ جُنُوبُهُمْ عَنِ اْلْمَضَاجِعِ} [السجدة: 16]:

عن أنسِ بن مالكٍ رضي الله عنه: «أنَّ هذه الآيةَ: {تَتَجَافَىٰ جُنُوبُهُمْ عَنِ اْلْمَضَاجِعِ} [السجدة: 16]  نزَلتْ في انتظارِ الصَّلاةِ التي تُدْعى العَتَمةَ». أخرجه الترمذي (٣١٩٦).

و(صلاةُ العَتَمةِ): هي صلاةُ العِشاءِ؛ لِما جاء في الحديثِ عن عبدِ اللهِ بن عُمَرَ رضي الله عنهما، قال: «صلَّى لنا رسولُ اللهِ ﷺ العِشاءَ، وهي التي يَدْعو الناسُ العَتَمةَ ...». أخرجه البخاري (٥٦٤).

* سورة (السَّجْدة):

سُمِّيت بذلك لِما ذكَر اللهُ تعالى فيها من أوصافِ المؤمنين، الذين إذا سَمِعوا آياتِ القرآن {خَرُّواْۤ سُجَّدٗاۤ وَسَبَّحُواْ بِحَمْدِ رَبِّهِمْ وَهُمْ لَا يَسْتَكْبِرُونَ} [السجدة: 15]. وقال البِقاعيُّ: «واسمُها (السَّجْدة) منطبِقٌ على ذلك بما دعَتْ إليه آيَتُها من الإخباتِ، وتركِ الاستكبار». "مصاعد النظر للإشراف على مقاصد السور" (2 /361).

* سورة ({الٓمٓ ١ تَنزِيلُ})، أو ({الٓمٓ ١ تَنزِيلُ} السَّجْدةَ):

دلَّ على ذلك افتتاحُ السُّورة بذلك، واحتواؤها على سَجْدةٍ، وصحَّ عن عبدِ اللهِ بن عباسٍ رضي الله عنهما: «أنَّ النبيَّ ﷺ كان يَقرأُ في صلاةِ الفَجْرِ يومَ الجُمُعةِ: {الٓمٓ ١ تَنزِيلُ} السَّجْدةَ، و{هَلْ أَتَىٰ عَلَى اْلْإِنسَٰنِ حِينٞ مِّنَ اْلدَّهْرِ}، وأنَّ النبيَّ ﷺ كان يَقرأُ في صلاةِ الجُمُعةِ سورةَ الجُمُعةِ، والمُنافِقِينَ». أخرجه مسلم (٨٧٩).

ولها أسماءٌ أخرى غيرُ ما ذكرنا.

ينظر: "التفسير الموضوعي لسور القرآن الكريم" لمجموعة من العلماء (6 /47-48).

* كان النبيُّ صلى الله عليه وسلم يَقرؤُها في فَجْرِ يوم الجمعة:

 عن عبدِ اللهِ بن عباسٍ رضي الله عنهما: «أنَّ النبيَّ ﷺ كان يَقرأُ في صلاةِ الفَجْرِ يومَ الجُمُعةِ: {الٓمٓ ١ تَنزِيلُ} السَّجْدةَ، و{هَلْ أَتَىٰ عَلَى اْلْإِنسَٰنِ حِينٞ مِّنَ اْلدَّهْرِ}، وأنَّ النبيَّ ﷺ كان يَقرأُ في صلاةِ الجُمُعةِ سورةَ الجُمُعةِ، والمُنافِقِينَ». أخرجه مسلم (٨٧٩).

* كان النبيُّ صلى الله عليه وسلم يَقرؤُها قبل نومِه:

عن جابرِ بن عبدِ اللهِ رضي الله عنهما: «أنَّ النبيَّ ﷺ كان لا يَنامُ حتى يَقرأَ {الٓمٓ ١ تَنزِيلُ}، و{تَبَٰرَكَ اْلَّذِي بِيَدِهِ اْلْمُلْكُ}». أخرجه الترمذي (٣٤٠٤).

اشتمَلتْ سورةُ (السَّجْدة) على الموضوعات الآتية:

1. القرآن حقٌّ مُنزَّل (١-٣).

2. الخَلْقُ: مُدَّته، وأنه حسَنٌ (٤-٩).

3. إثبات البعث (١٠-١١).

4. ذلُّ المجرمين يوم الدِّين (١٢-١٤).

5. علامات الإيمان (١٥- ١٧).

6. الجزاء العادل (١٨-٢٢).

7. الإمامة في الدِّين (٢٣-٢٥).

8. آياتٌ وعِظات (٢٦- ٣٠).

ينظر: "التفسير الموضوعي لسور القرآن الكريم" لمجموعة من العلماء (6 /51).

مقصدُ السُّورة الأعظم: هو إنذارُ الكفار بهذا الكتاب، وأنه مِن عندِ الله عزَّ وجلَّ؛ فلا يأتيه الباطلُ مِن بينِ يديه ولا مِن خلفِه، وبيانُ بطلانِ آلهتهم وزيفِها، والتذكيرُ بقدرة الله والبعث، وكذا تذكيرُهم بوجوب اتِّباع النبي صلى الله عليه وسلم المرسَل بهذا الكتاب؛ فمِن خلال الاتباع يكون الفوزُ بالجنة، والنجاةُ من النار، ولتحقيقِ ذلك لا بد من الاستجابة لله، والتواضُعِ لأمره، وتركِ الاستكبار والعناد، واسمُ السورة دالٌّ على ذلك.

ينظر: "مصاعد النظر للإشراف على مقاصد السور" للبقاعي (2 /361)، و"التحرير والتنوير" لابن عاشور (21 /204).