ترجمة سورة الواقعة

King Fahad Quran Complex - Thai translation

ترجمة معاني سورة الواقعة باللغة التايلاندية من كتاب King Fahad Quran Complex - Thai translation.

สูเราะฮฺ อัล-วากิอะฮฺ


เมื่อเหตุการณ์ (วันกิยามะฮ.) ได้เกิดขึ้น

ไม่มีผู้ปฏิเสธคนใดปฏิเสธต่อเหตุการณ์ของมัน

ต่อเหตุการณ์นั้นทำให้ชนกลุ่มหนึ่งต่ำต้อย ชนอีกกลุ่มหนึ่งสูงส่ง

เมื่อแผ่นดินถูกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

และบรรดาภูเขาได้แตกสลาย

และมันกลายเป็นผุยผงปลิวว่อน

และพวกเจ้าจะแยกออกเป็นสามกลุ่ม

คือกลุ่มทางขวา (ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือขวา) เจ้ารู้ได้อย่างไรว่ากลุ่มทางขวาคือใคร?

และกลุ่มทางซ้าย (ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือซ้าย) เจ้ารู้ได้อย่างไรว่ากลุ่มทางซ้ายคือใคร ?

และกลุ่มแนวหน้า คือกลุ่มแนวหน้า

เขาเหล่านั้น คือบรรดาผู้ใกล้ชิด

ในสวนสวรรค์หลากหลายแห่งความสุขสำราญ

เป็นกลุ่มชนจำนวนมาก จากชนรุ่นก่อน ๆ

และเป็นกลุ่มชนจำนวนน้อย จากชนรุ่นหลัง ๆ

โดยอยู่บนเตียงที่ประดับด้วยทองคำ

พวกเขานอนเอกเขนกอยู่บนนั้น โดยผินหน้าเข้าหากัน

มีเด็ก ๆ ที่มีอายุเช่นนั้น วนเวียนรับใช้พวกเขาตลอดไป

ถ้วยภาชนะใหญ่ และแก้วที่มีหู และจอกใส่สุราที่ไหลรินมา

พวกเขาจะไม่มึนศรีษะ และไม่หมดสติ เมื่อดื่มสุรานั้น

และผลไม้หลากชนิด ตามแต่พวกเขาจะเลือกกิน

และเนื้อนกที่พวกเขาอยากรับประทาน

และหญิงสาวที่มีนัยตาคมสวยงาม

ประหนึ่งไข่มุกที่ถูกพิทักษ์รักษาไว้อย่างดี

ทั้งนี้เป็นการตอบแทนเนื่องจากความดีที่พวกเขากระทำไว้

ในสวนสวรรค์นั้นพวกเขาจะไม่ได้ยินคำพูดที่ไร้สาระ และเป็นบาป

เว้นแต่คำกล่าวที่ว่า ศานติ ศานติ

และกลุ่มทางขวา (ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือขวา) เจ้ารู้หรือไม่ว่ากลุ่มทางขวาเป็นอย่างไร?

(พวกเขา) อยู่ภายใต้ต้นพุทราที่ไร้หนาม

และต้นกล้วยที่ออกผลเป็นเครือตั้งแต่ยอดจรดโคนต้น (ไม่เห็นลำต้น)

และร่มเงาที่แผ่กระจาย

และน้ำที่ไหลรินตลอดเวลา

และผลไม้อันมากหลาย

โดยไม่หมดสิ้นตามฤดูและไม่เป็นที่ต้องห้าม

และเตียงนอนที่ถูกยกให้สูงขึ้น

แท้จริงเราได้บังเกิดพวกนาง เป็นกรณีพิเศษจริง ๆ

แล้วเราได้ทำให้พวกนางเป็นสาวพรหมจรรย์

เป็นที่น่ารักชื่มชมแก่คู่ครอง อยู่ในวัยสาวคราวเดียวกัน

สำหรับกลุ่มทางขวา (ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือขวา)

(คือ)กลุ่มชนจากรุ่นก่อน ๆ

และกลุ่มชนจากรุ่นหลัง ๆ

และกลุ่มทางซ้าย (ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือซ้าย) เจ้ารู้หรือไม่ว่ากลุ่มทางซ้ายเป็นอย่างไร?

อยู่ในลมร้อน และน้ำกำลังเดือด

อยู่ใต้ร่มเงาของควันที่ดำทึบ

ไม่ร่มเย็น และไม่เป็นที่น่าชื่มชม

แท้จริงพวกเขาแต่กาลก่อนนั้นเป็นพวกเจ้าสำราญ

และพวกเขาเคยดื้อรั้นในการทำบาปใหญ่ ๆ อยู่เป็นเนือง

และพวกเขาเคยกล่าวว่า เมื่อเราตายไปแล้วและเราได้กลายเป็นดินผงและกระดูกป่น แล้วเราจะถูกให้ฟื้นคืนชีพอีกกระนั้นหรือ ?

และรวมทั้งบรรพบุรุษของเราแต่กาลก่อนนั้นด้วยหรือ?

จงกล่าวเถิด (มุฮัมมัด) แท้จริงชนรุ่นก่อน ๆ และรุ่นหลัง ๆ นั้น

จะถูกรวบรวมไว้จนกระทั่งถึงวันอันเป็นที่รู้กัน (วันกิยามะฮ.)

แล้วรวมทั้งพวกเจ้าอีกด้วย โอ้บรรดาผู้หลงผิด บรรดาผู้ปฏิเสธทั้งหลาย

แน่นอนพวกเจ้าจะเป็นผู้กินต้นซักกูม

และพวกเขาจะใส่มันเข้าไปเต็มท้อง

และพวกเขาจะดื่มน้ำกำลังเดือดตามลงไป

พวกเขาจะดื่ม (น้ำ) เช่นกับการดื่มของอูฐ ที่กระหายน้ำจัด

นี่คือที่พำนักของพวกเขาในวันแห่งการตอบแทน

เรานั้นได้สร้างพวกเจ้าขึ้นมา ไฉนเล่าพวกเจ้าจึงไม่เชื่อ (ในวันฟื้นคืนชีพ)

พวกเจ้าเห็นสิ่งที่พวกเจ้าหลั่งออกมา (อสุจิ) แล้วมิใช่หรือ?

พวกเจ้าสร้างมันขึ้นมา หรือว่าเราเป็นผู้สร้าง

เรานั้นเป็นผู้กำหนดความตายขึ้นในระหว่างพวกเจ้า และเราก็จะไม่ถูกขัดขวาง

ในการที่เราจะเปลี่ยนบุคคลเยี่ยงพวกเจ้า และเราจะให้พวกเจ้าเกิดขึ้นมาอีกในสิ่งที่พวกเจ้าไม่รู้

และโดยแน่นอน พวกเจ้าได้รู้มาแล้วถึงการเกิดครั้งแรก แล้วไฉนเล่าพวกเจ้าจึงไม่ใคร่ครวญ

พวกเจ้าเห็นสิ่งที่พวกเจ้าหว่านมาแล้วมิใช่หรือ?

พวกเจ้าทำให้มันงอกเงยขึ้นมา หรือว่าเราเป็นผู้ทำให้มันงอกเงยขึ้นมา?

หากเราประสงค์ทำให้มันหักเป็นชิ้น ๆ แล้ว แน่นอนเราก็ย่อมทำมันได้ แล้วพวกเจ้าคงประหลาดใจ

(พวกเจ้าจะกล่าวขึ้นว่า) แท้จริงเราได้รับความหายนะแล้ว

ไม่เพียงแต่เท่านั้น เรายังขาดแคลนปัจจัยเพาะปลูกอีกด้วย

พวกเจ้าเห็นน้ำที่พวกเจ้าดื่มแล้วมิใช่หรือ?

พวกเจ้าเป็นผู้หลั่งมันลงมาจากก้อนเมฆ หรือว่าเราเป็นผู้หลั่งมันลงมา

หากเราประสงค์ เราจะทำให้มันเค็มจัด แล้วไฉนเล่าพวกเจ้าจึงไม่กตัญญู?

พวกเจ้าเห็นไฟที่พวกเจ้าจุดขึ้นมาแล้วมิใช่หรือ?

พวกเจ้าเป็นผู้ทำให้ต้นไม้ของมันงอกเงยขึ้นมา หรือว่าเราเป็นผู้ทำให้มันงอกขึ้นมา

เราได้ทำให้มันมีขึ้นเพื่อเป็นการเตือนสติ และอำนวนประโยชน์แก่ผู้เดินทางรอนแรม

ดังนั้น เจ้าจงสดุดีด้วยพระนามแห่งพระเจ้าของเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่เถิด

ข้า (อัลลอฮ.) ขอสาบานด้วยตำแหน่งต่าง ๆ ของดวงดาว

และแท้จริงมันเป็นการสาบานอันยิ่งใหญ่ หากพวกเจ้ารู้

นั่นคือ กุรอานอันทรงเกียรติ

ซึ่งอยู่ในบันทึกที่ถูกพิทักษ์รักษาไว้

ไม่มีผู้ใดจะแตะต้องอัลกุรอาน นอกจากบรรดาผู้บริสุทธิ์เท่านั้น

ถูกประทานลงมาจากพระเจ้าแห่งสากลโลก

และด้วยเรื่องนี้ (อัลกุรอาน) กระนั้นหรือที่พวกเจ้าปฏิเสธเย้ยหยัน?

และทั้งๆ ที่พระองค์ทรงประทานปัจจัยยังชีพแก่พวกเจ้า พวกเจ้าก็ยังคงปฏิเสธศรัทธาต่ออัลลอฮฺ กระนั้นหรือ

และเมื่อวิญญาณได้มาถึงคอหอย (กำลังจะตาย) แล้วพวกเจ้าสามารถจะยับยั้งไว้ได้หรือ?

และในขณะนั้นพวกเจ้ากำลังมองดูกันอยู่

และเรานั้นอยู่ใกล้ชิดเขายิ่งกว่าพวกเจ้าแต่ทว่าพวกเจ้ามองไม่เห็น(มะลาอิกะฮ.)

หากว่าพวกเจ้ามิได้อยู่ภายใต้อำนาจของผู้ใด และไม่มีพระเจ้าเป็นผู้มีอำนาจเหนือพวกเจ้าแล้ว

ไฉนเล่า พวกเจ้าจึงไม่ให้วิญญาณกลับมาสู่ร่างอีก หากพวกเจ้าพูดจริง?

สำหรับผู้ที่หากว่าเขา (ผู้ตาย) เป็นผู้ใกล้ชิดกับอัลลอฮ.

ดังนั้นความอิ่มเอิบสดชื่น และสวรรค์อันเป็นที่โปรดปรานจะได้แก่เขา

และหากว่าเขาอยู่ในกลุ่มทางขวา (ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือขวา)

ดังนั้นความปลอดภัยก็เป็นของเจ้า ในฐานะเป็นผู้อยู่ ในกลุ่มทางขวา (ผู้ได้รับบันทึกด้วยมือขวา)

และหากว่าเขาอยู่ในหมู่ผู้ปฏิเสธหลงทาง

ดังนั้นสิ่งที่เตรียมไว้สำหรับเขาก็คือน้ำร้อนที่กำลังเดือด

และเปลวไฟที่ลุกไหม้

แท้จริงนี้แหละคือความจริงที่แน่นอน

ดังนั้นเจ้าจงสดุดีด้วยพระนามพระเจ้าของเจ้าผู้ยิ่งใหญ่เถิด
سورة الواقعة
معلومات السورة
الكتب
الفتاوى
الأقوال
التفسيرات

سورة (الواقعة) من السُّوَر المكية، نزلت بعد سورة (طه)، وقد جاءت بتذكيرِ الناس بوقوع يوم القيامة؛ للدَّلالة على عظمة الله عز وجل، وترهيبًا لهم من مخالفة أوامره، ودعوةً لهم إلى اتباع الدِّين الحق وتركِ الباطل، وخُتمت السورة الكريمة بتعظيمِ القرآن، وصدقِ أخباره وما جاء به، وقد أُثر عن النبي صلى الله عليه وسلم قراءتُه لها في صلاة الفجر.

ترتيبها المصحفي
56
نوعها
مكية
ألفاظها
380
ترتيب نزولها
46
العد المدني الأول
99
العد المدني الأخير
99
العد البصري
97
العد الكوفي
96
العد الشامي
99

* قوله تعالى: {فَلَآ أُقْسِمُ بِمَوَٰقِعِ اْلنُّجُومِ ٧٥ وَإِنَّهُۥ لَقَسَمٞ لَّوْ تَعْلَمُونَ عَظِيمٌ ٧٦ إِنَّهُۥ لَقُرْءَانٞ كَرِيمٞ ٧٧ فِي كِتَٰبٖ مَّكْنُونٖ ٧٨ لَّا يَمَسُّهُۥٓ إِلَّا اْلْمُطَهَّرُونَ ٧٩ تَنزِيلٞ مِّن رَّبِّ اْلْعَٰلَمِينَ ٨٠ أَفَبِهَٰذَا اْلْحَدِيثِ أَنتُم مُّدْهِنُونَ ٨١ وَتَجْعَلُونَ رِزْقَكُمْ أَنَّكُمْ تُكَذِّبُونَ} [الواقعة: 75-82]:

عن عبدِ اللهِ بن عباسٍ رضي الله عنهما، قال: «مُطِرَ الناسُ على عهدِ النبيِّ ﷺ، فقال النبيُّ ﷺ: «أصبَحَ مِن الناسِ شاكرٌ، ومنهم كافرٌ، قالوا: هذه رحمةُ اللهِ، وقال بعضُهم: لقد صدَقَ نَوْءُ كذا وكذا»، قال: فنزَلتْ هذه الآيةُ: {فَلَآ أُقْسِمُ بِمَوَٰقِعِ اْلنُّجُومِ} [الواقعة: 75]، حتى بلَغَ: {وَتَجْعَلُونَ رِزْقَكُمْ أَنَّكُمْ تُكَذِّبُونَ} [الواقعة: 82]». أخرجه مسلم (٧٣).

* سورة (الواقعة):

سُمِّيت هذه السورة بـ(الواقعة)؛ لافتتاحِها بهذا اللفظ، ولتسميةِ النبيِّ صلى الله عليه وسلم لها بذلك:

عن أبي بكرٍ الصِّدِّيقِ رضي الله عنه، قال: «سألتُ رسولَ اللهِ ﷺ: ما شيَّبَكَ؟ قال: «سورةُ هودٍ، والواقعةِ، و{عَمَّ يَتَسَآءَلُونَ}، و{إِذَا اْلشَّمْسُ كُوِّرَتْ}»». أخرجه الترمذي (٣٢٩٧).

و(الواقعةُ): اسمٌ من أسماءِ يوم القيامة.

* سورة (الواقعة) من السُّوَر التي شيَّبتْ رسولَ الله صلى الله عليه وسلم:

عن أبي بكرٍ الصِّدِّيقِ رضي الله عنه، قال: «سألتُ رسولَ اللهِ ﷺ: ما شيَّبَكَ؟ قال: «سورةُ هودٍ، والواقعةِ، و{عَمَّ يَتَسَآءَلُونَ}، و{إِذَا اْلشَّمْسُ كُوِّرَتْ}»». أخرجه الترمذي (٣٢٩٧).

* أُثِر عن النبي صلى الله عليه وسلم قراءتُه لسورة (الواقعة) في صلاة الفجر:

عن جابرِ بن سَمُرةَ رضي الله عنه، قال: «كان رسولُ اللهِ ﷺ يُصلِّي الصَّلواتِ كنَحْوٍ مِن صلاتِكم التي تُصَلُّون اليومَ، ولكنَّه كان يُخفِّفُ، كانت صَلاتُه أخَفَّ مِن صَلاتِكم، وكان يَقرأُ في الفجرِ الواقعةَ، ونحوَها مِن السُّوَرِ». أخرجه أحمد (٢٠٩٩٥).

1. تحقيق القيامة (١-٥٦).

2. دلائلُ البعث والجزاء (٥٧-٧٤).

3. تعظيم القرآن، وصدقُ أخباره (٧٥-٩٦).

ينظر: "التفسير الموضوعي لسور القرآن الكريم" لمجموعة من العلماء (7 /598).

مقصدُ سورة (الواقعة) هو التذكيرُ بوقوع يوم القيامة وهَوْلِه، ووصفُ ما يحدُثُ به؛ لتخويف الناس وترهيبهم من معصية الله عز وجل ومخالفة أمره، وفي ذلك دعوةٌ لهم للرجوع إلى الحق، والاستجابة لأمر الله.

ويُبيِّن ابن عاشور محورَها فيقول: «هو التذكيرُ بيوم القيامة، وتحقيق وقوعه.

ووصفُ ما يَعرِض لهذا العالَمِ الأرضي عند ساعة القيامة.

ثم صفة أهل الجنة وبعض نعيمهم.

وصفة أهل النار وما هم فيه من العذاب، وأن ذلك لتكذيبهم بالبعث.

وإثبات الحشر والجزاء.

والاستدلال على إمكان الخَلْق الثاني بما أبدعه الله من الموجودات بعد أن لم تكن.

والاستدلال بدلائل قدرة الله تعالى.

والاستدلال بنزعِ الله الأرواحَ من الأجساد والناس كارهون لا يستطيع أحدٌ مَنْعَها من الخروج، على أن الذي قدَرَ على نزعها بدون مُدافعٍ قادرٌ على إرجاعها متى أراد على أن يُمِيتَهم.

وتأكيد أن القرآن منزلٌ من عند الله، وأنه نعمةٌ أنعم الله بها عليهم فلم يشكروها، وكذَّبوا بما فيه». "التحرير والتنوير" لابن عاشور (27 /280).